เริ่มเกมในช่วงครึ่งแรก ไบรท์ตันแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและการเล่นที่ดุดัน โดยในนาทีที่ 37 ทาริค แลมพ์ตีย์ สามารถทำประตูให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 ซึ่งทำให้บรรยากาศในสนามเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นในนาทีที่ 41 คาร์ลอส บาเลบา ก็เกือบจะทำประตูที่สอง แต่ถูกหยุดโดยการเซฟของผู้รักษาประตูของเลสเตอร์
ในช่วงท้ายครึ่งแรก เลสเตอร์พยายามทำเกมรุกเพื่อหวังตีเสมอ แต่กลับไม่สามารถทำได้ จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ที่ 1-0 สำหรับไบรท์ตัน
การกลับมาของเลสเตอร์
เข้าสู่ครึ่งหลัง เลสเตอร์ทำการเปลี่ยนตัวเพื่อเพิ่มความสดใหม่ให้กับทีม และในนาทีที่ 46 มัตส์ วีฟเฟอร์ ถูกส่งลงสนามแทนคาร์ลอส บาเลบา ทำให้เกมเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เลสเตอร์เริ่มกดดันไบรท์ตันมากขึ้น และในนาทีที่ 62 เจมี่ วาร์ดี้ ซึ่งเป็นหัวหอกตัวเก๋าของทีม ได้มีส่วนร่วมในเกมอย่างมาก ทั้งการสร้างสรรค์เกมและทำประตู
ในนาทีที่ 86 วาร์ดี้ได้ทำประตูที่สำคัญให้เลสเตอร์ตีเสมอเป็น 1-1 และในนาทีที่ 90 เขาได้ทำการจ่ายให้บ็อบบี้ เดคอร์โดวา-รีด ซัดประตูที่สองให้กับเลสเตอร์ ทำให้เจ้าบ้านพลิกกลับมานำ 2-1 ในช่วงเวลาที่เหลือ
การตอบโต้ของไบรท์ตัน
แต่ความตื่นเต้นยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ ไบรท์ตันไม่ยอมแพ้ และในนาทีที่ 89 พวกเขาได้โอกาสทองในการทำประตู ซึ่งในที่สุดก็ทำให้พวกเขาสามารถตีเสมอเป็น 2-2 ได้จากการทำประตูของเอแวน เฟอร์กูสัน การทำประตูนี้ทำให้แฟนบอลของไบรท์ตันมีความหวังอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เว็บไซต์ m fun88 com แฟนบอลสามารถติดตามผลการแข่งขันระหว่างเลสเตอร์ พบ ไบรท์ตัน ได้อย่างใกล้ชิด ผลการแข่งขันก็จบลงที่ 2-2
สรุปและความหมายของเกม
เกมนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการต่อสู้ที่ไม่ยอมแพ้ของทั้งสองทีม แม้ว่าเลสเตอร์จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ด้วยความสามารถและประสบการณ์ของเจมี่ วาร์ดี้ ทำให้ทีมสามารถตีเสมอและเก็บคะแนนสำคัญได้ ขณะที่ไบรท์ตันก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสามารถในการกลับมาในเกม แม้จะนำอยู่ในช่วงต้นเกม
ผลการแข่งขันนี้ทำให้เลสเตอร์มี 3 คะแนนเพิ่มขึ้น และขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 16 ของตาราง ห่างจากโซนตกชั้น 5 แต้ม ในขณะที่ไบรท์ตันก็ยังคงรักษาอันดับในตารางไว้อย่างแข็งแกร่ง การแข่งขันในพรีเมียร์ลีกยังคงเข้มข้นและน่าติดตามต่อไปในฤดูกาลนี้